กระทรวง พม. โดย ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) สายด่วน พม. 1300 ได้รับแจ้งกรณีขอความช่วยตามข่าว “สุดเวทนา 2 ตายายชาวอาข่า ไร้คนเหลียวแล ถูกเผาไล่ที่ ไปขอความช่วยเหลือหลานเพียงคนเดียว กลับถูกเมิน ไม่ให้กินข้าว และพาไปทิ้งไว้ที่สถานีขนส่งอำเภอแม่สาย” ซึ่งได้ประสานให้ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่ตรวจสอบทันที

จากการลงพื้นที่ พบว่า ผู้สูงอายุทั้งสองคน เป็นสามีภรรยากัน โดย ภรรยามีบัตรประจำตัว ประเภทที่ 6 (ชาวอาข่า) ส่วนสามีมีสัญชาติเมียนมา แต่ไม่มีหลักฐานเอกสารแสดงตัวตน เดิมทั้งคู่ใช้ชีวิตอยู่กินร่วมกันเป็นระยะเวลาร่วม 23 ปี ในพื้นที่อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ประกอบอาชีพเกษตรกร มีบุตรชายแต่เสียชีวิตแล้ว เมื่อมีอายุมากขึ้น ร่างกายอ่อนแอ ทำงานหนักไม่ไหว จึงได้เดินทางไปหาหลานที่อำเภอแม่จัน แต่หลานไม่สามารถรับดูแลได้ จึงให้ไปรับจ้างทำงานกับนายจ้างไร่ข้าวโพด แต่ภายหลังกลับไม่ได้รับค่าจ้าง จึงออกจากไร่ ไปหาหลานชายอีกครั้ง แต่หลานชายได้พาตายายทั้งคู่ ทอดทิ้งไว้ที่สถานีขนส่งแม่สาย ดังกล่าว

ศูนย์คุ้มครองฯ ได้ร่วมมือกับ เทศบาลตำบลเวียงพางคำ และศูนย์การเรียนรู้บ้านนานา ให้ความช่วยเหลือ 2 ตายาย ดังนี้

1. ศูนย์การเรียนรู้บ้านนานา ได้รับตายายคุ้มครองดูแลชั่วคราวในเบื้องต้น และศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงราย จะรับเข้าคุ้มครองดูแลต่อ ในวันจันทร์ ที่ 18 พฤศจิกายน 2567 พร้อมคัดกรองโรคเบื้องต้น (กาย จิต) ตรวจวัณโรค ที่ โรงพยาบาลแม่จัน และตรวจเยี่ยมบ้านหลานชายเพื่อสอบข้อเท็จจริง

2. ด้วย 2 ตายาย ต้องการอาศัยอยู่ด้วยกัน โดยไม่ประสงค์เข้ารับการคุ้มครองในสถานสงเคราะห์ เจ้าหน้าที่ พม. จึงประสาน ศูนย์ชีวาภิบาลพบโชคเปี่ยมสุข วัดห้วยปลากั้ง เพื่อจัดหาที่พักอาศัยแก่ผู้สูงอายุทั้งคู่ ต่อไป