#พม. #ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงใหม่

          ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 เมื่อปี พ.ศ. 2564 ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการประสานจาก นาย A (นามสมมติ) อายุ 24 ปี เป็นบุคคลไร้สัญชาติ (ชาติพันธุ์ม้ง) ไม่มีเอกสารหลักฐานส่วนบุคคล มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ จ.เชียงราย ขอความช่วยเหลือในการพาอำนวยความสะดวกเข้าฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อโควิด 19

          ในขณะนั้น เจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองฯ ได้สอบข้อเท็จจริง พบว่า นาย A ประสบปัญหาเรื่องสิทธิและสถานะทางทะเบียนราษฎร เนื่องจากออกจากภูมิลำเนา จ.เชียงราย มาเร่ร่อนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำปาง ตั้งแต่อายุ 12 ปี ไม่เคยถ่ายบัตรประชาชนบุคคลไม่มีสัญชาติ ไม่มีรูปภาพใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนปรากฏในระบบของกรมการปกครอง เจ้าหน้าที่นักสังคมสงเคราะห์ จึงประสานหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงเรียนในพื้นที่ จ.เชียงราย สถานพินิจฯ จ.เชียงใหม่ เรือนจำกลาง จ.เชียงใหม่ เพื่อใช้ประกอบข้อมูลในการเข้าสู่กระบวนการสอบข้อเท็จจริง และได้ประสานส่งนาย A เข้ารับการคุ้มครองเป็นการชั่วคราว ณ ศูนย์คุ้มครองฯ จ.เชียงราย

          ต่อมาพบบิดาของนาย A อายุ 70 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่ จ.พะเยา ซึ่งเป็นบุคคลซึ่งได้รับการพิจารณาสัญชาติไทยแล้ว แต่พบว่ามีข้อมูลบางประการที่ไม่สอดคล้องกัน จึงทำให้ต้องเข้าสู่กระบวนการการพิสูจน์สารพันธุกรรมตามโครงการตรวจสารพันธุกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาสถานะและสิทธิคนไทยที่ตกหล่นทางทะเบียนราษฎรของสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และมีกำหนดการให้เข้าตรวจ DNA ภายในวันที่ 14 ก.ค. 2566

          ท้ายนี้ ศูนย์คุ้มครองฯ เชียงใหม่ ได้ประสานกับ นาย A เพื่อนัดหมายกำหนดการ เนื่องจากปัจจุบันนาย A ทำงานอยู่ในพื้นที่ จ.ตราด และได้ประสานขอความอนุเคราะห์ ศูนย์คุ้มครองฯ พะเยา ประสานแจ้งและให้อำนวยความสะดวกพาบิดาของนาย A เดินทางจาก จ.พะเยา เพื่อเข้าร่วมตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรม (DNA) เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2566 ณ โรงพยาบาลนครเชียงใหม่ เพื่อให้นาย A ได้เข้าถึงสิทธิและมีสัญชาติไทยอย่างถูกต้อง โดยได้การอำนวยความสะดวกโดยกลุ่มงานสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลนครเชียงใหม่เป็นอย่างดี