กระทรวง พม. โดย ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับการประสานจาก ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) สายด่วน พม. 1300 กรณีพบชายสูงอายุ พักอาศัยอยู่ในป่าช้า นานกว่า 1 เดือน จึงได้ประสาน เทศบาลตำบลหนองแฝก และผู้นำชุมชน ร่วมลงพื้นที่บริเวณป่าช้าดังกล่าว พบชาย สูงอายุ ทราบชื่อ นาย A (นามสมมติ) อายุ 60 ปี ภูมิลำเนาเดิม จ.ร้อยเอ็ด
จากการสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้การช่วยเหลือ พบว่า นาย A เดินทางมาอาศัยอยู่กับหลานสาวในหมู่บ้าน ประมาณ 4 ปี ช่วงสถานการณ์โควิด เนื่องจากตนตกงาน ต่อมาหลานสาวได้ขายบ้านที่เคยให้พักอาศัยให้คนอื่นไปทำให้ไร้ที่พักพิง นาย A แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนไม่ต้องการเข้ามาอยู่ในการคุ้มครองสวัสดิภาพ เนื่องจากยังมีศักยภาพในการดำรงชีวิต แต่ต้องการอยู่ในพื้นที่เพื่อหางานทำและมีรายได้ในการเช่าห้องเช่าต่อไป
อีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อพูดคุยกับหลานสาวของนาย A ทราบว่า นาย A เคยมาอาศัยอยู่และดูแลฟาร์มสุนัขให้กับตนเอง พักอาศัยในบ้านตนเองจริง เป็นระยะเวลา 4 ปี ได้ให้ค่าจ้าง 4,000 บาท/เดือน แต่เนื่องจากนาย A มีพฤติกรรมที่ทำให้ไม่สามารถอยู่กับตนได้ จึงขอปฏิเสธการช่วยเหลือในระยะยาว แต่จะช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับ จ.ร้อยเอ็ด ได้ เท่านั้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ พม. และเครือข่าย มีแนวทางการช่วยเหลือดังนี้
1. ศูนยคุ้มครองฯ ให้คำแนะนำกลับภูมิลำเนาเพื่อยื่นขอรับเบี้ย ผู้สูงอายุ ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ตามสิทธิที่พึงได้รับ พร้อมแจ้งสิทธิและสวัสดิการของ พม. ให้ทราบ
2. ต่อรองกับ เทศบาลฯ ซึ่งเทศบาล อนุญาตให้ นาย A อาศัยอยู่ในพื้นที่ได้อีก 1 เดือน ตามการร้องขอ เพื่อจะหางานทำและเช่าห้องเช่า หากไม่สามารถหางานทำได้ ยินยอมออกจากพื้นที่ / หากไม่ออกจากพื้นที่ เทศบาล จะประสานตำรวจ ดำเนินการ
3. หากศูนย์คุ้มครองฯ ได้รับการประสานแจ้งในครั้งต่อไป จากในพื้นที่เดิมหรือพื้นที่อื่น นาย A ยินยอม ที่จะกลับภูมิลำเนา จ.ร้อยเอ็ด
ทั้งนี้ ศูนย์คุ้มครองฯ เชียงใหม่ ได้ประสาน ศูนย์คุ้มครองฯ ร้อยเอ็ด และชลบุรี ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน ติดตามครอบครัว เพื่อประเมินศักยภาพและความพร้อม เพื่อวางแผนให้การช่วยเหลือในอนาคต ต่อไป